การนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้ในงานด้านใดบ้าง

 

การนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้ในงานด้าน

ด้านการศึกษา

           นำมาใช้สำหรับการเรียนการสอน เป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลายอย่าง สอนด้วยสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย ห้องเรียนสมัยใหม่มีอุปกรณ์วิดีโอโปรเจคเตอร์(Video Projector)มีเครื่องคอมพิวเตอร์มีระบบการอ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบต่างๆรูปแบบของสื่อที่นำมาใช้ในด้านการเรียนการสอนก็มีหลากหลายขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนำมาใช้ เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน, อิเล็กทรอนิกส์บุค, วิดีโอเทคอนเฟอเรนซ์, การสืบค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ด้วยระบบอินเทอร์เน็ต เป็นต้น


ด้านการแพทย์และสาธารณสุข

       -การนำมาประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านการแพทย์และสาธารณสุขได้นำมาใช้ในการพัฒนาด้านสาธารณสุขอย่างกว้างขวางและทำให้งานด้านสาธารณสุขเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ปรับระบบการบริหารงาน และนำเทคโนโลยี สารสนเทศมาใช้ในงานด้านต่างๆ ดังนี้ 

               -ด้านการลงทะเบียนผู้ป่วยตั้งแต่เริ่มทำบัตร จ่ายยา เก็บเงิน

           -การสนับสนุนการรักษาพยาบาลโดยการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลต่างๆเข้าด้วยกันสามารถสร้างเครือข่ายข้อมูลทางการแพทย์แลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ป่วย

           -สามารถให้คำปรึกษาทางไกลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชำนาญเทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยให้แพทย์สามารถเห็นหน้า หรือท่าทางของผู้ป่วยได้ ช่วยให้ส่งข้อมูลที่เป็นเอกสาร หรือภาพเพื่อประกอบการพิจารณาของแพทย์ได้ 

            -การพัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ โดยอาศัยความรู้ด้านวิศวกรรมเป็นหลักในการผลิต เช่นเครื่องเอกซเรย์,เครื่องโทโมกราฟิกแบบคอมพิวเตอร์เครื่องถ่ายภาพแบบนิวเคลียร์แมกนิติกโซแนน์อิมเมจเครื่องถ่ายภาพโดยเรดิโกราฟฟิก,เครื่องอุลตราซาวด์,เครื่องตรวจการทำงานของหัวใจ,เครื่องตรวจการรับฟังเสียง


ด้านโทรคมนาคมและการขนส่งสื่อสาร

            การประยุกต์ใช้ในงานประเภทนี้ได้แก่ การบริการโทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี การค้นคืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิทัล (ISDN) เป็นต้น ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการสื่อสารข้อมูล และโทรคมนาคมที่น่าสนใจ ได้แก่เทคโนโลยีต่างๆ ดังนี้

          -ดาวเทียม (Satellite) เป็นสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้นแล้วส่งไปโคจรรอบโลกรอบดาวเคราะห์ต่างๆดาวฤกษ์ต่างๆ หรือเพื่อให้ท่องเที่ยวไปในอวกาศและจักรวาลตามวิถีที่ได้มีการกำหนดไว้ก่อน ดาวเทียม จำแนกได้หลายประเภทซึ่งขึ้นกับลักษณะการใช้งานเช่น ดาวเทียมวิทยาศาสตร์ (Scientific Satellite) ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในงานค้นคว้าวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ ดาวเทียมการทหาร (Military Satellite) แบ่งเป็นประเภทย่อยได้ เช่น ดาวเทียมจารกรรม ดาวเทียมเตือนภัยล่วงหน้าดาวเทียมต่อต้านจรวดและดาวเทียมจู่โจมหรือระดมยิงเป็นต้นดาวเทียมนำทาง(Navigational Satellite) ดาวเทียมประเภทนี้ใช้ประโยชน์มากในเรือดำน้ำการวางแผนเส้นทางเดินเรือและเส้นทางการบินดาวเทียมสำรวจทรัพยากรบนผิวโลกและในมหาสมุทร (Earth and Ocean Resources Satellite) มีจุดประสงค์เพื่อใช้ศึกษาธรณีวิทยา พืชพรรณ ตลอดจนมหาสมุทร และดาวเทียมโทรคมนาคม (Telecommunication Satellite) ใช้ในกิจการการสื่อสารในระดับโลก ระดับภูมิภาคและระดับประเทศ

-ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail : E-mail) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นทางเลือกขั้นต้น ในการให้บริการจดหมายทางไปรษณีย์โดยอัตโนมัติ แนวความคิดเกี่ยวกับไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ครอบคลุมถึงเรื่อง Broad Spectrum ด้วย กล่าวคือสารจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าแล้วจึงถูกส่งออกไป ดังนั้น กระบวนการของระบบจึงเป็นลักษณะเดียวกับระบบโทรสาร
        

-ข้อมูลนำเข้าและข้อมูลผลลัพธ์จากระบบไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ อาจปรากฏในรูปของ Video Terminal, Word Processor, โทรสาร, Data Terminal Computer Vision และระบบการสื่อสารด้วยเสียงการส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จำเป็นต้องอาศัยข่ายงานโทรคมนาคม ไปรษณีย์ อิเล็คทรอนิกส์ที่มีข้อความสำคัญและประสงค์การส่งอย่างรวดเร็ว อาจกระทำได้โดยส่งผ่านออกไปในรูปแบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ผ่านข่ายงานข้อมูลที่เรียกว่า Computerize Switching System 

 -การประชุมทางไกล (Teleconference) เป็นรูปแบบการสื่อสารหรือการประชุมระหว่างคนหลายๆ คนโดยไม่ต้องอยู่ต่อหน้ากัน และใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นกลไกสำคัญในการสื่อสารการประชุมทางไกลมี วิธีการ คือ 1) การประชุมทางไกลด้วยเสียงและภาพ 2) การประชุมทางไกลด้วยเสียง 3) การประชุมทางไกลด้วยคอมพิวเตอร์ จะใช้คอมพิวเตอร์ส่งสาระของการประชุมระหว่างกัน ผ่านระบบออนไลน์





ด้านการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์

            1.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานธุรกิจ
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับระบบงานในองค์กรและงานด้านบริหารในโลกยุคใหม่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงทำให้การค้าและการดำเนินธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงองค์กรต่างๆเริ่มพยายามเปลี่ยนแปลงให้ก้าวทันสู่ยุคของการค้ารูปแบบใหม่โดยผ่านเคืรอข่ายอินเตอร์เน็ต เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าขายการตลาดและการบริการไปสู่กลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่เป็นการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า คำว่า “อีคอมเมิร์ซ”จัดเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรได้เปรียบคู่แข่งขัน
           ประโยชน์ของอีคอมเมิร์ซต่อบุคคล มีดังนี้

                     1.มีสินค้าและบริการราคาถูกจำหน่าย

                     2.ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น

                     3.สามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง

                     4.ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ในเวลาที่รวดเร็ว

                     5.ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าตรงตามความต้องการมากที่สุด

          ข้อจำกัดของอีคอมเมิร์ซด้านกฎหมาย มีดังนี้

                     1.กฎหมายที่สามารถคุ้มครองการทำธุรกรรมข้ามรัฐหรือข้ามประเทศ ไม่มีมาตราฐานที่เหมือนกัน และมีลักษณะที่แตกต่างกัน

                     2.ปัญหาเกิดจากทำธุรกรรม เช่น การส่งสินค้ามีลักษณะแตกต่างตากที่โฆษณาบนอินเตอร์เน็ต





 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การวิเคราะห์และออกแบบสารสนเทศทางธุรกิจ

  การวิเคราะห์และออกแบบสารสนเทศทางธุรกิจ    ( information System Analysis and Design ) สมรรถนะรายวิชา      1.พัฒนาระบบสารสนเทศทางธุรกิจ   ...